ผักโขม
ชื่อวิทยาศาสตร์ : Amaranthus LividusLinn.
ชื่อสามัญ : Chineses spinach
ชื่อวงศ์ : Amaranthaceae
ชื่ออื่นๆ : ผักโขม(กลาง),ผักโหม,ผักหม(ใต้), ผักโหม เกลี้ยง(แม่ฮ่องสอน),กระเหม่อลอเตอ (กระเหรี่ยง,แม่ฮ่องสอน)
ลักษณะ :
ผักโขมเป็นพืชล้มลุกปีเดียวลำต้นสีเขียวตรงแตกกิ่งก้านสาขามากใบเป็นใบเดี่ยวรูปไข่คล้ายสามเหลี่ยม ใบออกแบบสลัลกว้าง 2.5-8 ซม.ยาว 3.5-12 ซม.ขอบใบเรียบดอกเป็นดอกช่อสีม่วงปนเขียวออกตามซอก ใบเมล็ดสีน้ำตาลเกือบดำ
ผักโขมหัดเป็นพืชล้มลุกสูงราว 2 ฟุตมีขนเล็กน้อยใบเขียวเข้มรียาวประมาณ 4 นิ้วปลายใบมนหลังในมีขน และรอยย่นก้านใบสั้นดอกเล็กสีน้ำเงินอมม่วง
ผักขมหนามเป็นพืชล้มลุกปีเดียวลำต้นตรงเป็นเหลี่ยมหรือกลมผิวเรียบแตกกิ่งก้านมากใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ปลายใบแหลมออกสลัลกันก้านใบยายและมีหนามเกิดขึ้นตรงโคนก้านใบ1คู่ดอกเป็นดอกช่อสีเขียว อ่อนดอกย่อขนาดเล็กช่อดอกมีหนามแหลมแต่หนามเล็กกว่าต้นเมล็ดลีดำหรือสีน้ำตาล
ประโยชน์ : ผักโขมเป็นผักสุขภาพชั้นยอด ในใบผักโขมเป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี กรดแอมิโน และสารอาหารอื่น ๆ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง นอกจากนั้น ในผักโขมยังมี เบต้าแคโรทีนสูง มีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอลเลสเทอรอลในเลือดอีกด้วย ผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยระบบขับถ่าย และลดความเสี่ยง การเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
นอกจากนี้จากการวิจัยยังพบว่า เมล็ดผักโขมที่ชาวตะวันตกชอบรับประทานนั้น มีคุณค่าโปรตีนและแคลเซี่ยมที่สูงกว่าน้ำนม อีกทั้งให้กรดแอมิโนชื่อไลซีนมากกว่าที่ได้จากข้าว หรือข้าวสาลีอีก
สรรพคุณทางยา : ผักขมใบสดมีสรรพคุณรักษาแผลพุพองต้นมีสรรพคุณแก้อาการแน่นหน้าอกและไอหอบและรากช่วยดับ พิษร้อนถอนพิษไข้ขับ ถ่ายปัสสาวะ
ผักขมหัดรากปรุงเป็นยาถอนพิษร้อนแก้คันถอนพิษไข้แก้เสมหะขับ ปัสสาวะมักจะใช้เป็นยาสมุนไพร่วมกับผักขมหิน
ผักขมหนามรากผักโขมหนามเป็นยาแก้ตกเลือดแก้ฝีแก้ขี้กลากเป็นยาขับน้ำนมแก้แน่นท้อง แก้พิษแก้ช้ำในแก้ไข้ระงับความร้อนแก้เด็กลิ้นเป็นฝ้าละอองเบื่ออาหาร
ที่มา : http://www.the-than.com/samonpai/P/43.html
ผักโขมหัดเป็นพืชล้มลุกสูงราว 2 ฟุตมีขนเล็กน้อยใบเขียวเข้มรียาวประมาณ 4 นิ้วปลายใบมนหลังในมีขน และรอยย่นก้านใบสั้นดอกเล็กสีน้ำเงินอมม่วง
ผักขมหนามเป็นพืชล้มลุกปีเดียวลำต้นตรงเป็นเหลี่ยมหรือกลมผิวเรียบแตกกิ่งก้านมากใบเป็นใบเดี่ยว รูปไข่ปลายใบแหลมออกสลัลกันก้านใบยายและมีหนามเกิดขึ้นตรงโคนก้านใบ1คู่ดอกเป็นดอกช่อสีเขียว อ่อนดอกย่อขนาดเล็กช่อดอกมีหนามแหลมแต่หนามเล็กกว่าต้นเมล็ดลีดำหรือสีน้ำตาล
คุณค่าทางอาหาร :
ผักโขมเป็นผักใบเขียวที่อุดมด้วยวิตามินเอ กรดโฟเลต แคโรทีน วิตามินซี โพแทสเซียม ธาตุเหล็ก แมกนีเซียม แคลเซียม สังกะสี โปรตีน และไฟเบอร์ ผักใบเขียวอย่างผักโขมเปี่ยมด้วยสารต้านอนุมูลอิสระ ช่วยป้องกัน โรคมะเร็งโดยเฉพาะมะเร็งเต้านมและมะเร็งปอด ช่วยขจัดสารพิษออกจากร่างกาย ช่วยชะลอความแก่ วิตามินเอช่วยบำรุงรักษาสายตา บำรุงกระดูกและฟัน วิตามินซีช่วยเพิ่มภูมิคุ้มกันแก่ร่างกายให้ปลอดภัยจากโรค ช่วยเสริมสร้างคอลลาเจนเพื่อเพิ่มความยืดหยุ่นให้แก่ผิว ผักโขมยงมีธาตุเหล็กสูง และช่วยบำรุงเลือดอีกด้วยประโยชน์ : ผักโขมเป็นผักสุขภาพชั้นยอด ในใบผักโขมเป็นแหล่งวิตามินเอ วิตามินซี กรดแอมิโน และสารอาหารอื่น ๆ เช่น ธาตุเหล็ก แคลเซียม และฟอสฟอรัสสูง นอกจากนั้น ในผักโขมยังมี เบต้าแคโรทีนสูง มีสารซาโปนินที่ช่วยลดคอลเลสเทอรอลในเลือดอีกด้วย ผักโขมยังมีเส้นใยอาหารมาก จึงช่วยระบบขับถ่าย และลดความเสี่ยง การเป็นมะเร็งกระเพาะอาหารได้
นอกจากนี้จากการวิจัยยังพบว่า เมล็ดผักโขมที่ชาวตะวันตกชอบรับประทานนั้น มีคุณค่าโปรตีนและแคลเซี่ยมที่สูงกว่าน้ำนม อีกทั้งให้กรดแอมิโนชื่อไลซีนมากกว่าที่ได้จากข้าว หรือข้าวสาลีอีก
สรรพคุณทางยา : ผักขมใบสดมีสรรพคุณรักษาแผลพุพองต้นมีสรรพคุณแก้อาการแน่นหน้าอกและไอหอบและรากช่วยดับ พิษร้อนถอนพิษไข้ขับ ถ่ายปัสสาวะ
ผักขมหัดรากปรุงเป็นยาถอนพิษร้อนแก้คันถอนพิษไข้แก้เสมหะขับ ปัสสาวะมักจะใช้เป็นยาสมุนไพร่วมกับผักขมหิน
ผักขมหนามรากผักโขมหนามเป็นยาแก้ตกเลือดแก้ฝีแก้ขี้กลากเป็นยาขับน้ำนมแก้แน่นท้อง แก้พิษแก้ช้ำในแก้ไข้ระงับความร้อนแก้เด็กลิ้นเป็นฝ้าละอองเบื่ออาหาร
ที่มา : http://www.the-than.com/samonpai/P/43.html
ปุณยวีร์ แก่นสา
ชั้นประถมศึกษาปีที่ 5 เลขที่ 18 โรงเรียนลำปลายมาศพัฒนา